ในปี 2552 ได้เคยทำ DIY ตู้หนังสือไม้ เลื่อนได้สองชั้น ลงใน Blog:น้องปลาดาว ในพันทิพ.com คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ ต่อเพื่อนนักแต่งบ้าน เลยขอเอามาลงในเวปเผื่อว่า ยังไม่เคยอ่านจะได้ไอเดียเอาไปแต่งบ้านกัน
__________________________________
ตู้หนังสือสองชั้น สีขาวแต่งสไตย์ Vintage art ใบใหม่ ถูกประกอบขึ้นมาวางบนโถงชั้น 2 ด้วยจุดมุ่งหมายสองอย่าง
--อย่างแรก หนังสือที่มีมากมาย ที่ถูกวางไว้กระจัดกระจายไปทั่วบ้าน จะได้มีี่ที่อยู่เป็นสัดส่วนใน ตู้หนังสือ
--อย่างที่สอง นำพื้นระหว่างห้องนี้มาใช้ให้เหมาะสมขึ้น เดิมทีพื้นที่นี้จะถูกวางด้วยเครื่องออกกำลังกาย ที่กลายเป็นที่แขวนผ้าซะอย่างดี
แบบ ตู้หนังสือ นี้จะมีสองชั้น ชั้นด้านในติดกับผนัง กับชั้นด้านนอก ที่ตัวตู้สามารถเลื่อนออกด้านข้างเพื่อหยิบหนังสือชั้นด้านในได้
แล้วก็ส่งแบบให้ช่างไม้ ตอนมาทำบิ้วท์ที่บ้านแม่ ทำขึ้นมา
เทคนิคที่เรานำมา DIY ก็คือ เราจะใช้ล้อล่างวิ่งบนรางไม้เซาะร่องเพื่อรับน้ำหนักของบานตู้พร้อมหนังสือ
ผมก็ไปจัดหาชุดล้อแกนลูกปืน มาจากคลองถม ตัวละ 10+- บาท เช็คสเปคกับที่ร้าน เค้าบอกไม่ต้องเป็นห่วง รับได้เป็นร้อยโลต่อชุด พร้อมชุดน๊อต
ตัวตู้หนังสือชุดเลื่อนด้านหน้า เราก็ฝังชุดล้อยึดแกนไว้กับฐานตู้ ส่วนด้านบนตู้เลื่อน ก็จะมีเสริมเดือยกันล้มอีก 2 ชุด
หลังจากนั้น เราก็ประกอบตู้หนังสือเต็มใบ พร้อมกับยึดประกอบคร่าวๆ เพื่อเตรียมนำไปทำสีรองพื้นตู้
ทำสีรองพื้นเสร็จแล้วก็ถอดชิ้นงานออกเป็นชิ้น เหมารถจากบ้านแม่ มาส่งที่บ้านเป้าหมายของผมเอง ระยะทางก็ 20+ กิโล
พื้นที่จะนำมาติดตั้ง ก็เป็นพื้นที่ผนังกำแพง ระหว่างห้องสองห้องของชั้นบนที่บ้านผม หลังจากเคลียร์เครื่องออกกำลังกายออกไปแล้ว
แล้วก็เริ่มประกอบตู้หนังสือสองชั้นจริงตามแบบ บนพื้นที่ที่เตรียมไว้ คราวนี้ ยึดตายทุกจุดให้แน่นหนา
แต่ชิ้นตู้หนังสือด้านหน้า 3 ใบติดล้อ เราประกอบทำสีเรียบร้อยมาแล้ว เพราะสามารถนำขึ้นรถได้เลย ก็เลยไม่ต้องถอดประกอบใหม่
ส่วนเครื่องออกกำลังเจ้าของที่เดิม จอร์ทกับซาร่า คงมีงอล
ปล.ภาพด้านหลังเครื่องออกกำลังกาย อย่าเพ่งมากเดี๋ยวจะปวดตา อิอิ
เมื่อประกอบชิ้นส่วนต่างๆ เรียบร้อย เราก็ได้ตู้หนังสือสองชั้น เลื่อนได้ ด้านหลังมีช่อง 6 ชุด ด้านหน้ามีช่อง 3 ชุด + 1 ช่องว่างสำหรับการเลื่อนตู้
ที่ต้องให้ด้านหลังมี 6 ช่อง แล้วด้านหน้ามี 4 ช่อง ก็เพราะว่าเวลาจะเดินเข้าห้องทั้งซ้าย และ ขวา จะได้ไม่รู้สึกเกะกะ
เสร็จแล้วก็ให้่ช่างสี ตามมาเก็บงานสีอีกรอบ กว่าจะเสร็จงาน คืนนั้น เร่งงานกันเลยเที่ยงคืนกันไปโน่นเลย
หลังจากนั้น เราก็ติดมือจับสไตย์ Vintage ที่ไปเลือกมาจากที่บางโพ คลาสสิคสมใจคุณนายฯ เค้าล่ะครับ
เอาล่ะ เมื่อหมดหน้าที่ช่างไม้ กับ ช่างสีแล้ว ก็มาถึงหน้าที่ของผมกับ คุณนายฯ ที่จะมา DIY เก็บงานตกแต่งต่อ
คุณนายฯ ผมเค้าขอเลือกการใช้ Wall paper 3 สีเข้าชุด ติดด้านหลังตู้ ตามสไตย์ Vintage art
ก็ไปเลือกทั้งห้างโฮมฯ ทั้งงานบ้าน เทียบสี เที่ยบลาย เทียบราคา ปรากฎว่า HP ถูกที่สุด ตามร้านผ้าม่าน ร้าน Wall paper งานบ้าน กลับแพงสุดซะงั้น แถมต้องต่อราคากันอีกต่างหาก
ตัดตัว Wall paper ตามขนาดช่อง แล้วใช้กาวลาเท็กซ์ ผสมน้ำให้เหลวหน่อยทาด้านหลัง ตัว Wall paper ซึ่งวัสดุเป็นไวนิล ก็ไม่ยุ่ย แปะแล้วก็สามารถขยับให้ลงตำแหน่งได้นิดหน่อยไม่มีปัญหา
เมื่อปิดตัว Wall paper ไปแล้ว เราก็ใช้ผ้าชุบน้ำ กับ วัสดุที่ไม่แข็งนัก เช่น ก้อนยางแผ่น รีดกาว รีดอากาศ จากบริเวณตรงกลางของแผ่น Wall paper ออกไปตามขอบริม
จุดนี้ ถ้ารีดแล้ว ยังมีอากาศหลงเหลืออยู่ ตัวผิดจะปูดออก เราก็ยังสามารถลอกแผ่น Wall paper ออกมาแต่งใหม่ได้ ถ้ากาวยังไม่แห้ง
ตอนเริ่มติด Wall paper ก็เริ่มจากตัวตู้ลอย 3 ชุดก่อนแรกๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรให้ถนัด ก็นอนทำซะเลย ถนัดดี อิอิ
ผมกับคุณนายฯ ช่วยกันใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง ตู้ทั้ง 3 ใบก็ติด Wall paper เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ลายของ Wall paper ที่เราเรียง ก็เรียงให้เป็นระเบียบสลับกันไป จะได้มีจิตวิญญาณของศิลปะ
ต่อไปก็เป็นตัวตู้ชุดใน คราวนี้ คงนอนทำไม่ได้แล้ว ก็ต้องทำแนวตั้งๆ อย่างนี้แหละ
แต่ตู้ชุดนี้ คุณนายฯ เค้าวางมือปล่อยให้ผมลงมือเองล้วนๆ
ผมก็ใช้เวลาคืน พุธ-พฤ สัปดาห์แรกตัดตัว Wall paper ที่ช้าก็เพราะผมต้องวัดขนาดตัดทุกช่อง เพราะกลัวพลาดตัดเสียขึ้นมาล่ะ ท่าจะแย่
แล้วก็ใช้เวลาคืน พุธ-พฤ อีกสัปดาห์ต่อมา ติดตัว Wall paper ตามลาย วิ่งแนวเดียวกันกับตู้เลื่อนชุดด้านหน้า
เสร็จแล้วล่ะครับ ตู้หนังสือสีขาวย้อนยุค แนว Vintage art
สำหรับเรื่องค่าเสียหาย คงต้องออกตัวก่อนวิธีคิดค่าทำตู้ แต่ละชิ้นของผม คงเอาไปใช้กับราคาสั่งทำตู้สำเร็จ ตู้บิวท์ของคนอื่นไม่ได้
ค่าใช้จ่ายสั่งทำตู้ หลักๆ ของผมจะมีค่าแรงช่างไม้ ค่าแรงช่างสี ค่าไม้ ค่าอุปกรณ์ ตัดกำไรของ ผรม กับค่าตกแต่ง DIY ส่วนตัว ออกไปน่ะครับ อิอิ
--พอดีว่าจังหวะที่ช่างไม้ที่ทำสามารถเหมาค่าแรงทำให้ได้ โดยทั่วไปก็จะคิดตาม ตรม ละ 3000+- แต่ถ้างานมีส่วนสูงกว่าปกติ หรือมีชั้นมากกว่าปกติ ก็จะคิดเพิ่มอีกนิดหน่อย
--ค่าแรงช่างสีเฟอร์ รวมค่าสี ก็ใกล้เคียงกันกับค่าช่างไม้
--ค่าไม้ ก็จะอยู่ที่ตอนผมถอดแบบที่ออก เป็นไม้โครง ไม้อัด ไม้ปิดขอบ ไม้คิ้ว ฯลฯ แล้วก็สั่งไม้เอง สามล้อก็จะมาส่งให้ถึงหน้าบ้าน แล้วค่อยจ่ายตังค์
--ค่าอุปกรณ์อื่นๆ ก็ตามแบบที่ออกแบบเทคนิคเอง ถ้าไปออกแบบเทคนิคล้ำลึกเข้า ก็ต้องหาอุปกรณ์กันนานหน่อย แหล่งที่ซื้อก็จะเป็น บางโพ คลองถม ห้างโฮมฯ ต่างๆ
ขอบคุณครับที่แวะมาชมงาน DIY ของผม
หน้าที่เข้าชม | 1,022,266 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 480,364 ครั้ง |
เปิดร้าน | 12 ธ.ค. 2555 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |